เทศกาลกินเจ 2568 วันไหน กินยังไง ถือศีลยังไงไม่ให้หลุด?

ปลายปีทีไร ธงเหลืองโบกสะบัดเต็มเมือง - ใช่เลยจ้าา ถึงเวลาของ เทศกาลกินเจ 2568 อีกแล้วฮับ! ช่วงนี้คนทั้งบ้านทั้งเมืองพร้อมใจกันเลิกกินเนื้อสัตว์ ถือศีล กินเจกันถ้วนหน้า "สายบุญต้องสแตนบาย!"

ว่าแต่... ทำไมต้องกินเจกันด้วยนะ กินเจเพื่ออะไร กินยังไง ห้ามกินอะไร หรือที่เราถือศีลกินเจอยู่ทุกปีมันถูกต้องไหมนะ มาค่ะวันนี้น้องฮั่วจะจูงมือติวเข้มแบบตัวต่อตัว ถ้ามีสอบกินเจ ปีนี้ 100 คะแนนเต็มต้องมาแล้วค่ะคุณแม่!!

วันกินเจ 2568 เริ่มวันไหน?

ปีนี้ เทศกาลกินเจ 2568 เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 - 29 ตุลาคม 2568 รวม 9 วันเต็มตัวเลยจ้า

แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งโดดลงสนามเจทันทีค่ะ เพราะเราควร "ล้างท้อง" ก่อนวันจริง 1 วัน คือวันที่ 20 ตุลาคม เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับจากข้าวขาหมูไปเป็นเต้าหู้ทรงเครื่อง แบบไม่ช็อกตายกลางทางจ้า

~ อย่าลืม "ล้างท้อง" ก่อนเริ่มถือศีลนะจ๊ะ!

วันออกเจ 2568 ตรงกับวันไหน? ทำไม "ไม่ใช่ 29"

ปีนี้ "วันออกเจ" จริง ๆ ไม่ใช่วันที่ 29 ตุลาคมนะ แต่คือ วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 จ้าา

เหตุผล: เทศกาลกินเจ 2568 มีทั้งหมด 9 วัน 9 คืน ซึ่ง "คืนสุดท้าย" ของงาน (ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามจันทรคติ) คือวันที่ 29 ตุลาคม คืนนั้นจะมี พิธีส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ หรือลอยเรือ เชิญท่านกลับสวรรค์กันดึก ๆ ยาวข้ามเที่ยงคืนเลย

ดังนั้นเช้าวันถัดมา (30 ตุลาคม) ก็เลยถือเป็นวัน "ออกเจจริง"

สำคัญ! แล้วควรเลิกเจตอนกี่โมง?

โดยทั่วไปสามารถเลิกเจได้ตั้งแต่เช้าวันที่ 30 ตุลาคม แต่ตามหลักปฏิบัติที่เคร่งครัดและเพื่อให้มั่นใจว่าได้บุญครบถ้วนตลอด 9 วัน 9 คืน ผู้ถือศีลนิยม ถือศีลและทานเจต่อไปจนถึงเวลาเที่ยงวัน (12:00 น.) ของวันที่ 30 ตุลาคม เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุด (ตามธรรมเนียมโบราณ)

ใครรอชาบูอยู่ก็เตรียมตะเกียบให้พร้อมได้เลย! แต่อย่าเพิ่งรีบทานก่อนรุ่งเช้าของวันที่ 30 เดี๋ยวบุญหล่นหมดน้าา

สรุปสั้น ๆ (สำหรับการปฏิบัติ):

• จบพิธีดึกวันที่ 29 → เลิกเจได้ตั้งแต่เช้า 30 ต.ค.
• อยากได้บุญสมบูรณ์ที่สุด → รอให้ถึงเที่ยงวัน (12:00 น.) ของวันที่ 30 ต.ค.

เจคืออะไร ทำไมถึงต้อง กินเจ

"เจ" ที่ว่านี้... ไม่ใช่ชื่อของ "พี่เจ เจตริน" ที่พาเราย้อนไปยุค 90s นะ (ใครคิดถึงเพลง "กองไว้" บ้าง ยกมือ!) แต่ในภาษาจีน (齋) นั้นหมายถึง "ความบริสุทธิ์ สะอาด และการงดของคาว"

ตามหลักแล้วน้องฮั่ว ขออธิบาย ความหมายของคำว่าเจ แบบเข้าใจง่าย ๆ ว่า การกินเจคือ ไม่ใช่แค่การ "ไม่กินเนื้อสัตว์" แต่คือการ "ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" สงบ และไม่ฟุ้งซ่าน ละซึ่งความอยาก และไม่เบียดเบียนสัตว์ร่วมโลก (ถึงจะยากหน่อย แต่เธอไหวแหละ เค้าเชื่อ)

นี่เองคือ จุดเริ่มต้นของการสร้างบุญใหญ่ด้วยใจที่บริสุทธิ์ค่ะ!

ที่มาของเทศกาลกินเจในไทย - ไม่ได้มาจากจีนเหรอ?

น้องฮั่วขอเผยความลับที่หลายคนเข้าใจผิด! ตามประวัติที่สืบทอดกันมา จริง ๆ แล้ว ประเพณีกินเจที่โด่งดังในไทย ไม่ได้มาจากจีนแผ่นดินใหญ่หรอก แต่เริ่มจาก คนไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ต ต่างหาก!

ย้อนกลับไปเมื่อ 200 ปีก่อน ตอนนั้นมีคณะงิ้วจีนฮกเกี้ยนมาอยู่แถวภูเก็ต เกิดโรคระบาดหนัก พวกเขาจึงพร้อมใจกัน นุ่งขาวห่มขาว งดเนื้อสัตว์ และถือศีล 9 วัน เพื่อบูชาเทพเจ้า 9 องค์ ที่เรียกว่า "เก้าอ๊อง" (กิ๋วอ๊อง)

ผลปรากฏว่าโรคหายเฉย คนเลยศรัทธา แล้วทำตาม ประเพณีกินเจ นี้จึงสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ (จะเรียกประเพณีกินเจว่า ของดี Made in Thailand ก็ไม่ผิดนะจ๊ะ~)

โดยที่ภูเก็ต ประเพณีนี้มีชื่อเรียกว่า "เจี๊ยะฉ่าย" (กินผัก) และยังมีพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดผู้คนทั่วประเทศ เช่น อิ้วเก้ง, ยกเสาโกเต้ง, และการลุยไฟ เป็นต้น

ตำนานกินเจของชาวจีน

แต่ก่อนที่ประเพณี "เจี๊ยะฉ่าย" ของภูเก็ตจะโด่งดังไปทั่วโลก คนจีนทั่วโลกก็มีความเชื่อและตำนานการกินเจที่ต่างกันออกไปนะ ซึ่งน้องฮั่วขอเล่าเพิ่มเติม สองตำนานหลักที่คนมักพูดถึง ไว้ให้ได้ทราบกันไว้จะได้ไม่งงกันภายหลังค่ะ

1. ตำนานการบูชาดาวนพเคราะห์ 9 ดวง

หนึ่งในความเชื่อดั้งเดิมคือการสักการะ พระพุทธเจ้า 7 พระองค์ และ พระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ ซึ่งถือเป็นตัวแทนของ "ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง" ตามความเชื่อของจีน การกินเจ 9 วัน 9 คืน จึงเป็นการบำเพ็ญศีลเพื่อถวายความเคารพต่อดาวทั้ง 9 ดวงนี้ พร้อมกับการตั้งจิตทำบุญ เชื่อว่าจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลและได้รับพลังบุญจากฟ้าเลยนะ!

2. ตำนานนักรบหงี่หั่วท้วง

ตำนานนี้เล่าว่าเริ่มมาตั้งแต่ 400 ปีก่อน ในสมัยที่จีนถูกรุกรานโดยชาวแมนจู มีกลุ่มนักสู้ชาวจีนที่เรียกตัวเองว่า "หงี่หั่วท้วง" ได้นุ่งขาวห่มขาวและงดเนื้อสัตว์เพื่อรวมพลังต่อต้าน

แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป ชาวจีนที่เหลือจึงถือศีลกินเจเพื่อ รำลึกถึงเหล่านักสู้ผู้พลีชีพ เหล่านั้นค่ะ

~ "หงี่หั่วท้วง" ในชุดขาวที่ต่อสู้เพื่อชาติจีน ซึ่งเป็นที่มาของตำนานการถือศีลกินเจ

เริ่มต้น ล้างท้องก่อนกินเจ

ทำไมต้องล้างท้องก่อนล่ะ? กินเจเลยไม่ได้เหรอ?

คำตอบคือ "ไม่ได้ค่ะ" เพราะถ้าคุณพี่กินหมูกระทะอยู่ดี ๆ แล้วโดดมาข้าวกล่องเจทันที ร่างกายมันจะแบบงง ๆ เหมือนลากรถสิบล้อไปจอดกลางสี่แยกเลยนะ

"วันล้างท้อง" จึงเป็นวันที่เราเริ่มกินอาหารเจเบา ๆ ก่อนวันจริง 1 วัน เพื่อให้ร่างกายได้เตรียมพร้อมรับเทศกาลกินเจ 2568 นี้ ซึ่งวันล้างท้องจะตรงกับวันที่ 20 ตุลาคม 2568 หรือจะเริ่มล้างท้องก่อนหน้านั้น 2-3 วันก็ได้ค่ะ

การทำแบบนี้จะช่วยให้ ระบบย่อยปรับตัวได้ง่าย ลดอาการอยากเนื้อสัตว์ลง แถมยังช่วยลดโอกาส ท้องอืด หรือปวดท้องจากอาหารที่ไม่คุ้นเคยได้อีกด้วยนะ!

~ ทิปส์น้องฮั่วชวนเตรียมตัวล้างท้องก่อนกินเจ 2568 ให้พร้อมทั้งกายและใจ พร้อมรับบุญกันถ้วนหน้าเลยจ้า!

ทิปส์น้องฮั่วสำหรับวันล้างท้อง (20 ตุลาคม):

อันนี้เป็น Tip เล็ก ๆ น้อย ๆ จากประสบการณ์ตรงน้องฮั่วที่อยากจะมาแบ่งปันกับทุกคนเลยจ้า

1. เน้นอาหารที่ย่อยง่ายและสะอาด
   • เน้นน้ำใส:ในวันนี้ขอให้เธอลดของมัน ๆ แล้วหันมาเน้นอะไรที่ย่อยง่าย ๆ เช่น โจ๊กเจ ซุปผัก แบบคุยกับลำไส้ว่า "เราจะพักกันก่อนนะ~"
   • งดแป้งหนัก: เพราะจะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักในการย่อย น้องฮั่วเคยกินเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วเจตอนล้างท้อง บอกเลยว่าหนัก... ตื่นมาเหมือนยังไม่เริ่มอะไรทั้งนั้น แหะ ๆ
   • ค่อย ๆ ลดคาเฟอีน: หากติดกาแฟก็ควรค่อย ๆ ลดลงค่ะ ไม่งั้นวันจริงนี่ปวดหัวตุ๊บได้นะ (ข้อนี้น้องฮั่วใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลยนะแต่ปลื้มมากเพราะจากที่ต้องกินทุกเช้า เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว) หรือกินได้แต่ต้องเลือกกาแฟดำหรือโอเลี้ยงนะคะ (ต้องไม่ลืมว่า ห้ามมีส่วนผสมของนมและครีมเทียมน้าา)
2. เตรียมใจให้พร้อมก่อนเข้าสู่โหมดถือศีล
   • เคลียร์ตู้เย็น: เพื่อกำจัดวัตถุดิบ "ไม่เจ" ทั้งหมดออกไป ให้การเริ่มต้นของเราใสสะอาดแบบ 100% มีอยู่ปีนึงน้องฮั่วลืมทำ โดนคุณแม่เอ็ดหูชาเลยง่ะ ฮือ ๆ
   • ทำสมาธิ 5 นาที: ลองนั่งเงียบ ๆ 5 นาที หรือใช้เวลาช่วงนี้ในการตั้งจิตอธิษฐาน ว่าจะถือศีลกินเจครบ 9 วัน การทำแบบนี้จะช่วยให้จิตใจสงบ และทำให้การเริ่มต้นกินเจมี "เจตนา" ที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
   • หาเมนูที่เลิฟ: ลองหาเมนูเจที่เธอชอบจริง ๆ สำหรับวันรุ่งขึ้น เช่น เต้าหู้ทรงเครื่องเจ หรือ สลัดผักเจ เพื่อสร้างความตื่นเต้นและลดความรู้สึก "อยาก" เนื้อสัตว์

ล้างท้องเสร็จ แล้วเบื่อเมนูเดิม ๆ อยากหาเมนูอะไรใหม่ ๆ ทานบ้าง มาค่ะไปดูกันต่อว่า กินเจปี 68 นี้ กินไรดีนะ?

กินเจปีนี้ กินอะไรดี

สายกินไม่ต้องกลัวอด! เพราะจริง ๆ แล้วอาหารเจมีให้เลือกเยอะมากกกก~ ขอแค่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ นอกนั้น... ลุยเลยจ้า!

~ น้องฮั่วชี้เป้า! เมนูเจอร่อยๆ หาซื้อง่ายใน 7-11 มีเพียบ!

เมนูเจใน 7-11 ก็มีเพียบ

เต้าหู้ทรงเครื่องเจ, ข้าวโพดทอดเจ, ข้าวกล่องเจ, ซาลาเปาเจ, นมถั่วเหลือง, นมข้าวโพด เป็นต้น ถ้านึกอะไรไม่ออกมองหาธงเจสีเหลืองเลยค่ะ

ผักผลไม้สด

เซฟสุด หยิบกินยังไงก็ไม่หลุดเจ แถมได้สุขภาพดีไปด้วยอีกนะ!

เต้าหู้ โปรตีนเกษตร

ขวัญใจสายเจตัวจริง เคี้ยวมัน เคี้ยวเพลิน เหมือนได้เนื้อแต่ไม่เบียดเบียนใครเลยน้า~

ขนมกรุบกรอบที่ไม่ใส่นม ไข่

จะสายมันฝรั่งอบกรอบ ข้าวเกรียบกรุบ ๆ ก็มีหลายยี่ห้อที่มีธง "เจ" ชัดเจน

ชา กาแฟ ไม่ใส่นม

คาเฟอีนก็ได้จ้า~ แต่อย่าลืมเลือกสูตรไม่ใส่นม และต้องระวัง "ครีมเทียม" ที่ทำจากนมวัวด้วยนะเธอ!

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "สูตรเจ"

มีให้เลือกหลายแบรนด์ กินง่าย อร่อยไว เอาไว้เป็นตัวช่วยยามหิวแบบเร่งด่วนได้เลย!

สรุปก็คือ... กินเจไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกลัวอด ขอแค่ไม่เบลอ จนเผลอหยิบลูกชิ้นปลามาเคี้ยวก็พอ!

กินเจ 2568 ห้ามกินอะไรบ้าง?

ฮั่นแน่... ก่อนจะหยิบอะไรใส่ปาก มาส่องกันก่อนดีกว่าว่า กฎเหล็กของสายเจมีอะไรบ้าง!

น้องฮั่วสรุปให้แบบเข้าใจง่าย 5 ข้อ ไม่ต้องเปิดพจนานุกรมก็เข้าใจได้แน่นอนค่า~

1. ห้ามเนื้อสัตว์ทุกชนิด

หมู ไก่ ปลา กุ้ง หอย ไข่ - ตัดใจจากโปรตีนสายคาวทั้งหมด และที่ต้องย้ำคือ ของแปรรูปทั้งหมด! เช่น นม, เนย, น้ำปลา, น้ำมันหอย, ครีมเทียมจากนมวัว, น้ำผึ้ง (อันนี้ก็ชอบลืมกัน) และขนมที่ใส่เจลาติน (ทำจากกระดูกสัตว์) ก็ถือว่า "หลุดเจ" ทันทีนะคะ!

2. ห้ามผักกลิ่นฉุน

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก~ สำหรับน้องกระเทียม หอมหัวใหญ่ หอมแดง กุยช่าย หลักเกียว และใบยาสูบ เพราะพวกนี้เขาว่าแรง! กระตุ้นอารมณ์ แถมทำลาย พลังงานหยิน ที่เราพยายามรักษาไว้ในช่วงกินเจ

3. ห้ามของมึนเมา

เหล้า เบียร์ บุหรี่ - บ๊ายบายไปก่อนน้าา~ สายเมาจะร้องไห้ก็ช่วงนี้แหละ แต่เพื่อความบริสุทธิ์ของจิตใจก็ต้องอดใจไว้หน่อยนะคะ

4. ห้ามรสจัด

เผ็ดจัด, เค็มจัด, หวานจัด, หรือเปรี้ยวจัด เพราะรสจัดจะไปกระตุ้น ตันหากิเลส ให้ลุกเป็นไฟ

5. ห้ามภาชนะปนเปื้อนสิ่งที่ "ไม่เจ"

อาหารที่ปรุงโดยคนไม่กินเจ หรือใช้ภาชนะที่เคยใส่ของคาวมา ถือว่า "ผิดเจ" ทันทีนะจ๊ะ! เป็นเหตุผลว่าทำไมคนถือศีลกินเจต้องไปอยู่รวมที่เดียวกัน เช่น โรงทาน ศาลเจ้า ที่จัดงาน "พลาดข้อนี้คือเฟลยกเซ็ตเลยน้า"

การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ

"สายกินเจฟังทางนี้!"

กินเจให้ได้บุญจริง ๆ ไม่ใช่แค่ "งดของคาว" อย่างเดียว แต่ต้องมี "เจตนาบริสุทธิ์" ด้วยนะจ๊ะ! ซึ่งน้องฮั่วสรุปให้แบบครบเซ็ตทั้งกาย วาจา ใจแล้ว ไปดูกันเล้ยย

~ คู่มือ 10 ข้อฉบับกระเป๋า: เซฟภาพนี้ไว้ใช้เช็กตัวเองตลอด 9 วัน! จะได้บุญแบบฟูลเซ็ตแน่นอนค่า!

รักษาศีล 5

ข้อนี้คือเบสิกขั้นสุด! โดยเฉพาะข้อ "ไม่ฆ่าสัตว์" ที่เป็นหัวใจของการกินเจเลยล่ะจ้า

พูดดี ทำดี คิดดี

เลิกเผือกเรื่องคนอื่น (ขอพักโซเชียลชั่วคราว), ไม่พูดจาอาฆาตใคร ไม่พูดจิกกัดใครแรง ๆ - ใจสงบ จิตเราก็ไม่ฟุ่งฟ่านไปด้วยนะจ๊ะ

แต่งชุดขาว

ไม่ใช่เพราะจะไปออกงาน แต่เพื่อสื่อถึง "ความบริสุทธิ์" ทั้งกายและใจ ใส่แล้วหน้าก็จะใสตามไปด้วย (เค้าว่างั้น~)

ไหว้พระ ทำบุญ สวดมนต์

ถ้าว่างจากเล่นมือถือ ลองเปลี่ยนมาอ่านบทสวด ดูคลิปธรรมะเบา ๆ ก็ถือว่าได้บุญเหมือนกันนะ

แยกภาชนะกับของที่ไม่เจ

อันนี้สำคัญไม่แพ้ข้ออื่นเลย! แยกจาน แยกช้อน แยกหม้อให้ชัดเจน อย่าเก็บหรือปรุงเจปนหม้อชาบูเมื่อวานนะคะ~

สรุปง่าย ๆ เลยว่า... กินเจ = เจตนา + ศีล 5 + ใจสงบ

จะได้บุญแบบฟูลเซ็ต ไม่หลุดธีม ไม่หลุดใจ แล้วบุญก็จะไม่หลุดมือไปด้วยนะ

เทศกาลกินเจภูเก็ต - ของจริงต้องที่นี่

ถ้าพูดถึงเทศกาลกินเจแล้วไม่พูดถึง ภูเก็ต ก็เหมือนขนมจีนน้ำยาไม่มีเส้นเลยฮับ!

ที่ภูเก็ตนี่จัดใหญ่ทุกปี มีขบวนแห่สุดอลังการ อิ้วเก้ง (พิธีแห่พระ), ม้าทรง, ลุยไฟ และพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์มากมาย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเทศกาลกินเจในบ้านเราเลย

~ เทศกาลกินเจที่ภูเก็ต ในย่านเมืองเก่าชิโนโปรตุกีส

พิธีสำคัญเช่น ยกเสาโกเต้ง (เสาตะเกียง 9 ดวง) และการจุดไฟบนยอดเสาตลอด 9 วัน คือเอกลักษณ์ของ "งานกินเจภูเก็ต" ปีนี้ก็จัดอย่างยิ่งใหญ่ระหว่าง 21 - 29 ตุลาคม 2568 เช่นกัน

น้องฮั่วรับประกันเลยว่า ใครที่อยากสัมผัสจิตวิญญาณและความศรัทธาของการกินเจอย่างแท้จริง ห้ามพลาดที่นี่เลยจ้าา!

กินเจเพื่ออะไร?

น้องฮั่วตอบให้เลยว่า... กินเจทั้งที เธอจะได้ 3 อย่างนี้แน่นอนค่าาา!

ได้สุขภาพดี

ระบบขับถ่ายโล่งงง~ เลือดสะอาด เบาตัวแบบไม่ต้องเข้าคอร์สดีท็อกซ์เลยจ้า

ได้ใจที่สงบ

ไม่เบียดเบียน ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่สร้างกรรม ใจจะนิ่งขึ้นแบบไม่ต้องพยายามเยอะ

ได้บุญและสติ

เพราะเธอ ตั้งใจทำดี แบบไม่ต้องโพสต์โชว์ ไม่ต้องบอกใคร - แค่รู้ตัวเองก็พอแล้ว

สรุปง่าย ๆ เลยว่า... กินเจไม่จำเป็นต้องทำตัวศักดิ์สิทธิ์อะไรเว่อร์ ๆ หรอกค่ะ แค่เธอ "ตั้งใจทำดี" และ "ไม่หลอกตัวเอง" ว่าเรากำลังชำระทั้งกายและใจอยู่... แค่นี้ก็โคตรดีแล้ว!

ปีนี้มาเริ่มต้นเป็นสายบุญแบบชิล ๆ ไปด้วยกันเลยน้าา!

Q&A ไขทุกข้อสงสัยกินเจที่คุณต้องรู้!

Q: กินเจแบบ 'ไม่ต่อเนื่อง' ทำได้ไหม? (กิน 2 วัน เว้น 1 วัน)

ทำได้ค่ะ แต่การทานเจแบบไม่ต่อเนื่องจะไม่ถือว่าสมบูรณ์ตามหลักการถือศีลกินเจที่เน้นความบริสุทธิ์ของกาย วาจา และใจ ตลอด 9 วัน 9 คืน ค่ะ

คำแนะนำ: หากคุณไม่สะดวกจริง ๆ ในบางวัน ให้ตั้งใจทานเจเท่าที่สามารถทำได้ แต่ในวันที่จะกลับมาเริ่มทานเจใหม่ จำเป็นต้องล้างท้อง อีกครั้ง เพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อนการรับศีลเจค่ะ

Q: หากกินเจไม่ต่อเนื่อง ต้องล้างท้องใหม่ทุกครั้งหรือไม่?

จำเป็นต้องล้างท้องใหม่ทุกครั้งค่ะ

การล้างท้อง คือการชำระล้างสิ่งตกค้างจากอาหารที่ไม่ใช่เจ การที่คุณเว้นการทานเจไป (แม้จะแค่วันเดียว) ร่างกายก็จะรับประทานอาหารที่ไม่ใช่เจเข้าไป ดังนั้น ก่อนที่จะกลับเข้าสู่การถือศีลเจอีกครั้ง ต้องล้างท้อง เพื่อเริ่มการถือศีลใหม่ให้บริสุทธิ์ค่ะ

Q: บนกินเจไว้ แล้ว 'ขอผลัดวัน' กินเนื้อสัตว์ระหว่างทางได้ไหม?

ในทางปฏิบัติ ไม่แนะนำอย่างยิ่งค่ะ

หากคุณบนบานไว้ เช่น เจ้าแม่กวนอิม ว่าจะทานเจติดต่อกัน การผิดคำถือเป็นเรื่องใหญ่ทางจิตใจและพิธีกรรมค่ะ ทางออกที่ดีที่สุด คือ ยึดมั่นตามคำบนให้ครบถ้วน เพื่อให้การถือศีลเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หากมีเหตุจำเป็นฉุกเฉินจริงๆ หรือพลาดโดยไม่ตั้งใจ ควรปรึกษาศาลเจ้า ที่คุณบนไว้เพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสมค่ะ

Q: 'ผักฉุน' ที่ห้ามมีอะไรบ้าง? ทำไมถึงห้าม?

มีผักหลัก 5 ชนิดที่ถูกเรียกว่า "ผักที่มีกลิ่นฉุน" และถูกห้ามอย่างเคร่งครัดในการทานเจค่ะ:

1. กระเทียม
2. หัวหอม (รวมถึงหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอม)
3. หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน)
4. กุยช่าย
5. ใบยาสูบ (รวมถึงของมึนเมา/บุหรี่)

เหตุผลที่ห้าม: ตามตำราแพทย์แผนจีนโบราณ ผักเหล่านี้มีฤทธิ์ กระตุ้น (ธาตุร้อน) สูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ ความบริสุทธิ์ของจิตใจ และขัดต่อการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ค่ะ

Q: อาหารเจ VS อาหารมังสวิรัติ เหมือนหรือต่างกัน?

แตกต่างกันชัดเจนค่ะ การกินเจเคร่งครัดกว่าการกินมังสวิรัติมาก:

สรุปง่าย ๆ: เจคือ การถือศีล ส่วนมังสวิรัติเน้น สุขภาพ ค่ะ

Q: อาหารเจ 'เลียนแบบเนื้อสัตว์' กินได้ไหม? (เช่น ไก่เจ, หมูแดงเจ)

ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่ทำได้ค่ะ เพราะทำมาจากพืช

อย่างไรก็ตาม หากต้องการทานเจให้บริสุทธิ์ตามหลักการดั้งเดิม ไม่ควรทาน เนื่องจากอาหารที่เลียนแบบเนื้อสัตว์นั้นอาจกระตุ้นความอยากหรือตัณหาให้เกิดขึ้นได้อีก ทำให้จิตใจไม่สงบ และขัดกับจุดประสงค์ของการถือศีลเพื่อลดความอยากนั่นเองค่ะ

Q: ไข่ นม โยเกิร์ต น้ำผึ้ง กินได้หรือไม่?

กินไม่ได้ค่ะ

อาหารเหล่านี้จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์โดยตรง หรือโดยอ้อม ถือเป็นการเบียดเบียน จึงผิดหลักการกินเจค่ะ

Q: กินเจได้ 'บุญ' จริงหรือไม่?

การกินเจอาจจะไม่นับเป็น "บุญ" โดยตรงตามหลักบุญกิริยาวัตถุ 10 ในพุทธศาสนา แต่การกินเจนั้นมี ประโยชน์และอานิสงส์ ตามวัตถุประสงค์ 3 ข้อหลักที่ชัดเจนค่ะ:

1. กินเพื่อสุขภาพ: ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ขับพิษ และทำความสะอาดระบบภายใน
2. กินด้วยจิตเมตตา: งดเว้นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำความดี
3. กินเพื่อเว้นกรรม: การไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารของเรา

ดังนั้น การกินเจถือเป็นการ ฝึกฝนจิตใจให้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความดีและเมตตาค่ะ

Q: ไม่อยาก 'หลุดเจ' เพราะไม่มีเวลาทำอาหารเอง ทำอย่างไรดี?

ทางออกที่ง่ายและบริสุทธิ์ที่สุดคือ การสั่งอาหารจากร้านที่เชี่ยวชาญด้านอาหารจีนและอาหารเจโดยเฉพาะค่ะ

การทำอาหารเจเองต้องพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบและภาชนะที่ไม่ปนเปื้อน (ต้องล้างให้สะอาดและแยกหม้อ) ซึ่งอาจยุ่งยากในชีวิตประจำวัน ฮั่วเซ่งฮง จึงพร้อมเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้คุณค่ะ

• การันตีความบริสุทธิ์: เมนูเจของเราปรุงในครัวที่ แยกอุปกรณ์ภาชนะและคนปรุง เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ 100%
• มั่นใจได้: เมนูทุกจาน ปลอด ผักฉุน 5 ชนิด ไข่ นม และส่วนผสมจากสัตว์
• ความสะดวก: คุณสามารถสั่งเมนูเจต้นตำรับที่อร่อยและได้บุญจากเราได้ทันที

สรุปจบสั้น ๆ อีกที (สไตล์น้องฮั่ว)

1. วันกินเจ 2568: 21 - 29 ตุลาคม (ล้างท้อง 20 ตุลาคม)
2. วันออกเจปี 2568: เช้าวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม แต่ถ้าอยากได้บุญสมบูรณ์ที่สุด รอให้ถึงเที่ยงวัน (12:00 น.)
3. จุดมุ่งหมาย: ล้างกาย ล้างใจ และไม่เบียดเบียน
4. ห้ามกิน: เนื้อสัตว์, ผักกลิ่นฉุน, ของมึนเมา, อาหารรสจัด และปนเปื้อน อาหารไม่เจ
5. กินได้: ผัก, ผลไม้, เต้าหู้, ธัญพืช และเมนูเจธงเหลืองทั้งหลาย
6. การปฏิบัติตน: ถือศีล สำรวมกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์